เรากำลังทำมากกว่าแค่ร้องเพลง!

​

เวลาที่เรานำคริสตจักรร้องเพลงนมัสการ บางครั้งเราอาจคิดว่าเรากำลังแค่ “ร้องเพลง” หรือ “สร้างบรรยากาศ” เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว การนมัสการคือสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นมาก เรากำลังช่วยปลูกพระคำของพระเจ้าไว้ในใจของผู้คน เรากำลังเป็นส่วนหนึ่งในการสอนพระวจนะให้กับคริสตจักรเราอาจจะไม่ได้ขึ้นเทศนา แต่เราก็กำลังสอนความจริงผ่านทางเพลง พระคัมภีร์บอกว่า การร้องเพลงคือหนึ่งในวิธีที่ทำให้ “พระวจนะของพระคริสต์อยู่ในพวกท่านอย่างบริบูรณ์”
เมื่อเราเลือกเพลงที่มีเนื้อหาตามพระคัมภีร์ เรากำลังช่วยให้คนในคริสตจักรเรียนรู้และจดจำพระคำ

​

เพลงคือสิ่งที่อยู่ในใจได้นาน - ความจริงคือ คนส่วนใหญ่อาจลืมคำเทศนาในอีกไม่กี่วัน แต่เพลงที่พวกเขาร้องในวันอาทิตย์...จะอยู่ในใจพวกเขาไปอีกนาน
บางครั้งเป็นเดือน บางครั้งเป็นปี หรือแม้แต่ตลอดชีวิต นั่นแหละคือพลังของดนตรีและบทเพลง มันทำให้ความจริงของพระเจ้าซึมลึกลงไปในจิตใจมันปลอบใจในวันที่เหนื่อย
มันให้กำลังใจในวันที่ท้อ มันเตือนใจในวันที่สับสน คุณกำลังช่วยให้คนพกพระคำของพระเจ้าไปกับเขา เพลงที่คุณนำในวันอาทิตย์ อาจเป็นสิ่งที่ช่วยพี่น้องในคริสตจักร

​​

• ท่ามกลางปัญหาในครอบครัว

• เมื่อต้องเผชิญโรคร้าย

• เมื่อต้องผ่านช่วงเวลาที่มืดมิดในชีวิต

 

บางครั้ง เพลงนั้นอาจเป็นสิ่งเดียวที่เขานึกถึงได้และนั่นอาจเป็นสิ่งที่ช่วยเขาไว้ไม่ให้ล้มลง

​

คุณคือผู้นำนมัสการ — และยังเป็นครูด้วย แม้คุณจะไม่มีไมค์อยู่ในมือ แม้คุณจะเล่นอยู่ข้างหลัง หรือทำงานด้านเทคนิค แต่คุณก็เป็นส่วนหนึ่งของการสอนพระคำผ่านการนมัสการ ทุกเพลงที่เรานำคือคำสอนทุกคำที่เราร้องคือพระวจนะที่เราฝังไว้ในใจคน เพราะฉะนั้นเราควรถามตัวเองว่า:

• เพลงนี้สอนอะไร?

• มีพื้นฐานจากพระคัมภีร์ไหม?

• ชี้ให้เห็นพระเยซูไหม?

• จะเป็นกำลังใจให้คนที่ลำบากไหม?

• ถ้าเพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายที่คน ๆ หนึ่งร้องก่อนเขาตาย — เราอยากให้เป็นเพลงนี้ไหม?

​​

ให้ความจริงข้อนี้นำเราในทุกการเตรียมตัว เวลาซ้อม ไม่ใช่แค่ให้โน้ตถูก แต่ให้จิตใจเราพร้อมด้วย เวลาคัดเลือกเพลง ไม่ใช่แค่เลือกเพลงฮิต แต่ให้เลือกเพลงที่ลึกซึ้งตามพระคัมภีร์เวลานำบนเวที อย่าดูที่ความรู้สึกของเรา แต่ให้ดูที่ผลที่พระเจ้าทำผ่านเรา พระเจ้าใช้คุณในการปลูกพระคำลงไปในจิตใจของคน สิ่งที่คุณทำ ไม่ใช่เล็กน้อย — แต่มันมีคุณค่านิรันดร์

​

​​คำอธิษฐาน:

"พระเจ้า ขอบพระคุณที่ให้เรามีโอกาสรับใช้พระองค์ผ่านการนมัสการ ขอให้เราซาบซึ้งและตระหนักถึงพลังของเพลงที่เรานำ ขอให้เพลงของเราเต็มไปด้วยพระวจนะให้การเตรียมตัวของเรามีพระวิญญาณนำและให้เรานำด้วยหัวใจที่ถ่อมสุภาพ ขอพระองค์ใช้ทีมของเราเป็นเครื่องมือที่นำผู้คนเข้าใกล้พระองค์มากขึ้นในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน"

​

​​​​​​​​คำถามสำหรับการใคร่ครวญ: ​​​​

1. สำหรับคุณแล้ว การที่ผู้นำนมัสการเป็น "ครู" ที่สอนพระคำของพระเจ้าด้วย หมายความว่าอย่างไร?

2. คุณใส่ใจแค่ไหนในการเลือกหรือร้องเพลงที่มีพื้นฐานจากพระคัมภีร์?

3. มีเพลงนมัสการเพลงไหนที่เคยช่วยให้คุณผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้บ้าง? เพลงนั้นเตือนใจคุณถึงความจริงอะไรของพระเจ้า?

4. ทีมของเราจะช่วยกันอย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าเพลงที่เรานำจะช่วยสร้างความเชื่อที่ถูกต้องในชีวิตของผู้คน?

5. คุณสามารถเตรียมตัวได้ดีขึ้นอย่างไร (ทั้งฝ่ายจิตวิญญาณและในทางปฏิบัติ) เพื่อเป็นผู้นำนมัสการที่ทำหน้าที่ "สอน" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ?